เหตุการณ์ ของ ฤดูหนาวในประเทศไทย พ.ศ. 2558–2559

เดือนตุลาคม

เดือนธันวาคม

  • วันที่ 16 ธันวาคม กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง อากาศหนาวเย็นในประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงในอ่าวไทย ฉบับที่ 1 โดยระบุว่าบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้ปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน โดยจะส่งผลให้ภาคอิสานมีอุณหภูมิลดลง 4–7 องศาเซลเซียส และในภาคอื่น ๆ จะลดลง 3–5 องศาเซลเซียส[4]

เดือนมกราคม

  • วันที่ 17 มกราคม บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนจากประเทศจีนเข้าปกคลุมประเทศเวียดนาม และทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้นำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้เกิดฝนตก[5]
  • วันที่ 22 มกราคม เมื่อเวลา 17:00 น. กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัย เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 5 โดยระบุคาดว่าบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก และหลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 6–10 องศาเซลเซียสอย่างรวดเร็ว[6]

และในวันที่ 25–26 มกราคม จะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกพัดเข้ามาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้พื้นที่ดังกล่าวยังคงมีอากาศเย็นต่อเนื่อง[6] รวมถึงยังมีการออกมาชี้แจงข่าวที่มีการส่งต่อกันในเครือข่ายสังคม ว่าประเทศไทยมีโอกาสเกิดหิมะตกบริเวณบนดอยสูง โดยอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาปฏิเสธข่าวนี้[7]

  • วันที่ 23 มกราคม บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และจะเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ซึ่งจะทำให้อากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนองและลมแรง จากนั้นอากาศจะเย็นลง[8] ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ส่งหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 37 จังหวัด ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลางตอนบน ให้เตรียมรับมืออันตรายจากอากาศแปรปรวน[9]
  • วันที่ 24 มกราคม บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ[10]โดยที่จังหวัดนครพนม สถานีตรวจวัดอุณหภูมิของสถานีอุตุนิยมวิทยานครพนม สามารถวัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 12–14 องศาเซลเซียส[11]
  • วันที่ 25 มกราคม บริเวณความกดอากาศสูงยังปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีอากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนอง และมีลมแรงเกิดขึ้น[12] โดยที่ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย วัดอุณหภูมิต่ำสุดในตอนเช้าได้ -3 องศาเซลเซียส ขณะที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี วัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 10 องศาเซลเซียส และที่จังหวัดสกลนคร วัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 8 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าหนาวที่สุดในรอบ 15 ปี[13]

ส่วนกรุงเทพมหานคร กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าตรวจวัดอุณหภูมิที่สนามบินดอนเมืองได้ 15.3 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าอุณหภูมิลดต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียสครั้งแรกในรอบ 10 ปี[14]

  • วันที่ 26 มกราคม บริเวณความกดอากาศสูงเริ่มอ่อนกำลังลง ทำให้เกิดหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิสูงขึ้น ส่วนคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกได้เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จึงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นต่อเนื่อง[15]
  • วันที่ 27 มกราคม กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเกี่ยวกับอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับสุดท้าย โดยระบุว่าความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยได้อ่อนกำลังลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะยังคงมีอากาศหนาวเย็นต่อไปจนถึงวันที่ 29 มกราคม เนื่องจากกระแสลมฝ่ายตะวันตก[16]

เดือนกุมภาพันธ์

  • วันที่ 4 กุมภาพันธ์ กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับแรก โดยระบุว่าความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรง จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในวันที่ 6–8 กุมภาพันธ์ โดยจะทำให้อุณหภูมิลดลง 3–6 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณภาคใต้จะมีฝนตก[17]
  • วันที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลา 17:00 กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 4 โดยระบุว่า ความกดอากาศสูงได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว และคาดว่าจะเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบนในคืนวันเดียวกัน[18]
  • วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ความกดอากาศสูงแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าความกดอากาศสูงจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ โดยจะมีอุณหภูมิลดลง 4–6 องศาเซลเซียส และมีลมแรง[19]
  • วันที่ 7 กุมภาพันธ์ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเป็นฉบับที่ 13 โดยระบุว่า ความกดอากาศสูงยังปกคลุมอยู่เหนือประเทศไทย[20]
  • วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมอยู่บริเวณประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง แต่อุณหภูมิยังสามารถลดลงได้อีก 2–4 องศาเซลเซียส[21] โดยที่ภูทับเบิก สามารถวัดอุณหภูมิได้ต่ำสุดประมาณ 3 องศาเซลเซียส[22]
  • วันที่ 9 กุมภาพันธ์ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย เป็นฉบับสุดท้าย โดยระบุว่าความกดอากาศสูงได้อ่อนกำลังลง โดยจะทำให้บริเวณอื่น ๆ ยกเว้นภาคเหนือ มีอุณหภูมิสูงขึ้น และทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลงด้วย[23]
  • วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ บริเวณจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน สามารถวัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 0 องศาเซลเซียส ส่วนอุปกรณ์วัดอุณหภูมิดิจิทัลสามารถวัดได้ 4 องศาเซลเซียส และยังมีการพบเหมยขาบ บริเวณกิโลเมตรที่ 45 รวมทั้งหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ด้วย[24] ขณะที่ภูหินร่องกล้า สามารถวัดอุณหภูมิยอดหญ้าได้ -2 องศาเซลเซียส มีการพบน้ำค้างแข็งเกาะตามยอดหญ้าและหลังคาบ้าน อากาศที่หนาวเย็นยังส่งผลกระทบกับสัตว์เลี้ยงในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ[25]


  • วันที่ 24 กุมภาพันธ์ กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 1 โดยระบุว่าความกดอากาศสูงได้ปกคลุมอยู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ และคาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า อุณหภูมิจะลดลง 6–8 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ 4–8 องศาเซลเซียสในภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก โดยจะเกิดขึ้นหลังจากเกิดฝนฟ้าคะนองในระยะแรก และลมมรสุมมีกำลังแรงขึ้นทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูง 2–4 เมตร[26]
  • วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ความกดอากาศสูงกำลังแรงปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน[27]
  • วันที่ 26 กุมภาพันธ์ กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 8 คาดการณ์ว่าความกดอากาศสูงจะปกคลุมเหนือประเทศไทยตอนบนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์[28]
  • วันที่ 27 กุมภาพันธ์ บริเวณความกดอากาศสูงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าอุณหภูมิจะลดลงอีก 2–4 องศาเซลเซียส[29]
  • วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ความกดอากาศสูงกำลังแรงยังปกคลุมอยู่บริเวณประเทศไทยและทะเลจีนใต้ และลมฝ่ายตะวันตกระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือตอนบน ทำให้มีอากาศหนาวเย็นและมีลมแรง[30]
  • วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ความกดอากาศสูงระลอกใหม่จะประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้[31]

เดือนมีนาคม

  • วันที่ 1 มีนาคม กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับสุดท้ายเกี่ยวกับอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย โดยระบุว่า ความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้ และคาดว่าจะลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจะปกคลุมถึงวันที่ 2 มีนาคม โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะลดลง 2–4 องศาเซลเซียสในภาคเหนือ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางจะลดลง 1–3 องศาเซลเซียสในภากลาง[32]


แหล่งที่มา

WikiPedia: ฤดูหนาวในประเทศไทย พ.ศ. 2558–2559 http://hilight.kapook.com/ http://hilight.kapook.com/view/132021 http://www.krobkruakao.com/ http://www.krobkruakao.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B... http://www.manager.co.th/ http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsI... http://www.thairath.co.th/ http://www.thairath.co.th/content/575393 http://tmd.go.th/programs/%5Cuploads%5Cannounces%5... http://tmd.go.th/warningwindow.php?wID=4947